ที่มา : https://web.facebook.com/jiradejwong…
ผู้เขียน : ภูมิ จิระเดชวงศ์
เผยแพร่ : วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

รายละเอียด

ตำรับยาจากพระคัมภีร์ตักกะศิลาในการใช้รักษาโรคระบาด

ในเมืองตักกะศิลา เกิดวิปริตเมืองห่าลงเมือง ท้าวพระยาไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินทั้งปวง เกิดความไข้ล้มตายเป็นอันมาก คนที่เหลือตายออกจากเมืองตักกะศิลาไป ยังเหลือแต่เปลือกเมืองเปล่า ต่อมา มีฤๅษีมิได้ปรากฏนาม โคจรมาจากป่าหิมพานห์ มองเห็นแต่เมืองเปล่า มีแต่ซากศพตายก่ายกองทั้งบ้านเมือง จึงทราบว่าไข้ห่าลงเมือง ฤๅษีจึงมีใจกรุณาแต่งคัมภีร์ตักกะศิลาไว้ เพื่อแพทย์ในเบื้องหน้า ด้วยภูมิปัญญาทางฌานสมาบัติของท่าน ให้ลักษณะอาการเพื่อจะได้สืบอายุของสัตว์ไว้

ในพระคัมภีร์ตักกะศิลา ได้กล่าวไว้ว่าผู้ใดจะรักษาโรคไข้พิษ ไข้เหนือ มีมากมายหลายจำพวก ให้จัดการปั้นรูปดาบสไว้บูชาเสียก่อน โดยให้เอาดินโป่ง ๗ โป่ง ดินท่า ๗ ท่า ดินจอมปลวก ๗ จอม ดินสระ ๗ สระ ดินป่าช้า ๗ ป่าช้า เอาขี้เถ้าของคนที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร แล้วนำเอา ใบราชพฤกษ์ ใบชัยพฤกษ์ ใบคันธพฤกษ์ ใบชุมแสง ใบทั้งสี่นี้เอาส่วนเสมอภาค นำเอามารวมกันเผาไฟให้เป็นขี้เถ้า แล้วเอาไปผสมกับส่วนผสมในข้างต้น ปั้นเป็นรุปพระดาบสไว้บูชาเวลาปรุงยา ให้ใช้พระคาถานี้

อธิเจตโส อปมัชชโต โมนปเถ สุสิกขโต โสกานัพพวันติ ตาทิโน อุปสันตัสสะ สติมะโต

พระคาถานี้ ให้เสกน้ำล้างหน้ารดตัว ผู้ที่จะเรียนเป็นแพทย์ และใช้เสกน้ำมนต์ประคนไข้ ก่อนที่จะรักษาด้วยยาต่อไป

ตามพระคัมภีร์ตักกะศิลา ว่าด้วยซึ่งโรคระบาดเร็วเหมือนห่าลงเมือง ใช้คำเรียกโรคระบาดว่า ไข้พิษ โรคไข้เหนือ และ โรคไข้กาฬ การแพทย์แผนไทย ได้อธิบายโรคร้ายนี้ไว้ว่า

#ไข้พิษ ได้แก่ไข้รากสาด ไข้อีดำอีแดง ไข้มาลาเรีย ไข้มหาเมฆ ไข้มหานิล เป็นต้น อาการทั่วไปของไข้พิษ คือ ปวดศีรษะ ตัวร้อนดุจเปลวไฟ ปากแห้ง ฟันแห้ง น้ำลายเหนียว ตาแดงคล้ายสายเลือด ร้อนใน กระหายน้ำ มือเท้าเย็น มีเม็ดขึ้นตามร่างกายเล็กบ้างใหญ่บ้าง มีสีต่าง ๆ กัน ดำก็มี แดงก็มี เขียวก็มี เป็นต้น

#ไข้เหนือ คือ ไข้ป่า เรียกกันว่าไข้จตุดง คือป่า ๔ ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และ ภาคใต้ ไข้เหนือ บางทีก็เรียกว่าไข้จับสั่น เมื่อล้มไข้ลงให้ปวดศีรษะ หนาวสั่น มือเท้าเย็น ท้องผูก กระหายน้ำ ปวดปัสสาวะ หน้าซีด เบื่ออาหาร ร้อนภายในสูง หนาวสั่น สร่างไข้เหงื่อไหลออก ลุกขึ้นได้ ถ้าแก้ไม่หาย ถึงกับเสียชีวิต

#ไข้กาฬ มีความร้อนจากภายในมาก ๆ เป็นกำลัง กำลังความร้อนสูง จะมีเม็ดเกิดขึ้นเหมือนยุงกัด สีแดงเกิดขึ้นตามลำไส้ ไต ปอด ม้าม ผุดออกมาตามผิวหนังภายนอกเป็นแว่นเป็นวง เป็นเม็ดสีดำ สีแดง สีไหม้เหรียม จะเสียชีวิตภายใน ๗ – ๑๑ วัน

โดยสรุป โรคไข้พิษ โรคไข้เหนือ โรคไข้กาฬ อาการที่เป็น คือ ความร้อนสูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ผุดออกเป็นเม็ด ผุดเป็นแว่นเป็นวง มีสีต่าง ๆ กัน มีทั้งสีแดง สีเขียว สีดำ ขึ้นทั่วร่างกาย

การดูแลรักษาคนป่วยให้แต่งยากระทุ้งพิษ ( เป็นการทำให้พิษไข้ถูกขับออกมาภายนอก ) เป็นสูตรตำรับยาหม้อแรก เรียกว่า

#ยาแก้วห้าดวง ( เบญจโลกวิเชียร ) ท่านให้เอา รากคนทา รากเท้ายายม่อม รากชิงชี่ ( เหม็งซอ ) รากหญ้านาง รากมะเดื่อทุมพร ส่วนน้ำหนักเสมอภาคต้มให้กินเพื่อกระทุ้งพิษ ( กระทำให้พิษถูกขับออกภายนอก ) ต่อไปปรุงยารักษาไปตามอาการที่เป็นในลักษณะคล้ายคลึงกัน จำพวกไข้พิษ ไข้เหนือ ไข้กาฬ มีอยู่ ๖๗ ชื่อ

ข้อห้ามของแสลง ห้ามใช้ยาเผ็ด ยาร้อน ยาเปรี้ยว ห้ามประคบ ห้ามนวด ห้ามถ่ายเลือด ห้ามถูกน้ำมัน สุรา และ น้ำร้อนสัมผัสผิว รวมถึงส้มมีผิว กะทิ และห้ามอาบน้ำแล้ว ข้อห้ามเมื่อวินิจฉัยแล้วว่าเป็นไข้พิษ ไข้เหนือ ไข้กาฬ หรือในเครือข่าย ๖๗ รายชื่อ จึงห้าม

#ยาจันทลีลา เป็นยาแก้ไขในแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ฉบับหลวงเช่นกัน และเป็นยาสามัญประจำบ้านของแพทย์แผนไทย มีตัวยา ๘ ตัว คือ โกฎสอ โกฏิเขม่า โกฏิจุฬาลัมภา จันทน์เทศ จันทน์แดง ลูกกระดอม บอระเพ็ด ปลาไหลเผือก จะใช้ต้มหรือบดผงก็ได้ ส่วนน้ำหนักเสมอภาค

มีสรรพคุณ ในการแก้ไข้ ตัวร้อน ไข้หวัด ไข้สามฤดู คือ
ไข้คิมหันตฤดู เดือน ๕ , ๖ , ๗ , ๘
ไข้วัสสานะฤดู เดือน ๙ , ๑๐ , ๑๑ , ๑๒
ไข้เหมันตฤดู เดือน ๑ , ๒ , ๓ , ๔

ยาจันทลีลา และยาแก้วห้าดวง เหมาะสมที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในเหตุการณ์ปัจจุบันได้ดี ดีกว่าไม่ใช้เสียเลย

บทความนี้ หมอกีชา วิมลเมธี บ.ภ. บ.ว. บ.ผ. ซึ่งเป็นครูของผู้เขียน ได้เรียบเรียงไว้ ซึ่งในการระบาดของโรคระบาด โควิด-๑๙ ในครั้งแรกนั้น ศูนย์แพทย์แผนไทยศาลามีชัย นครศรีธรรมราช ได้จัดทำโครงการแจกยาไทย ให้คำปรึกษา ให้ความรู้ เพื่อเตรียมการรองรับในวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันนั้นสถานการณ์เดินทางมาถึงจุดที่น่ากังวลมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราทุกคนนั้นต้องเตรียมตัว เตรียมความพร้อม ตั้งสติให้ดี ทางการแพทย์สมัยใหม่ก็เดินหน้าไป ด้านแพทย์แผนไทยก็มีตำรับยาไทยที่พอบรรเทาไปได้ ประเทศไทยนั้นมีตัวยาสมุนไพรอย่างพร้อมเพรียง หากตั้งหลักให้ดี บ้านเมืองนี้ย่อมมีทางออกเสมอ บรรพชนได้มอบสิ่งดี ๆ ไว้ให้เราอย่างมากมาย ในยามวิกฤตเราถึงได้มานั่งหวนคิดในสิ่งที่เรามี เพราะสุดท้ายทุกประเทศในโลก เขาก็ต้องเอาความปลอดภัยของประชาชนเขาก่อนเสมอ เราเพิ่งตัวเองได้เป็นดีที่สุดครับ

ด้วยความเคารพ ภูมิ จิระเดชวงศ์