ที่มา : https://web.facebook.com/bunchar.pongpanich…
ผู้เขียน : บัญชา พงษ์พานิช
เผยแพร่ : วันจันทร์ที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒

รายละเอียด

การออกพรรษาของนครเมืองพระบ้านผมนั้น
งดงามและสนุกสนานไม่มีที่ไหนเหมือน
หลังจากที่เมื่อวานนี้ ผ่านบุญวันพระมหาปวารณาสุดท้ายแห่งพรรษา
โดยแต่ละวัด จะอัญเชิญพระลากประจำวัดออกมาสรงน้ำ
แล้วทรงเครื่องตามที่มีมาและเสริมเติมกันต่อมาแม้กระทั่งทุกวันนี้
โดยวัดที่มีเรือพระ ก็จะเตรียมเรือหรือพนมพระ ตามแนวที่จะไป
ทุกวันนี้เรือน้ำมีน้อยแล้ว เป็นเรือบกแทบทั้งนั้น
มีทั้งแบบดั้งเดิมและแบบเปลี่ยนล้อ ตอลดทั้งโครงลำกันแล้วครับ
ขณะที่แต่ละบ้าน ก็ทำหนมต้มข้าวเหนียวกับลูกเห็ด
เอาไว้ใส่บาตรกันหอมอวลอบไปแทบทุกบ้าน

ตลอดกลางคืนจะมีกิจกรรมคุมพระ ด้วยเครื่องตีสารพัด
สองวัดข้างบ้านผมนั้น ท่านเลิกลากพระมานานมากแล้ว
บอกว่าลากปีไหนเป็นได้เรื่อง คนคุมเรือเอาไม่อยู๋ ตีฟันกันทุกที

หลังน้าพาทำห่อของใส่บาตรเสร็จเมื่อคืนนี้
บอกว่าเช้านี้ ถ้าตื่นไหวก็จะไป ไม่ไหวก็ให้ผมไปแทน
ตอนจวนจะ ๖ โมงเช้า บอกว่าน่าไม่ไหว ให้ผมไปแทน
พอ ๖ โมงเช้า บอกใหม่ว่าไหวแล้ว ไปด้วย

เริ่มที่วัดจันประจำตระกูล
พระลากงามมาก ๕ องค์ มีพระ ๒ รูป คนสิบเศษ เวียนกันเข้ามาเรื่อย ๆ
ใส่ครบในบาตรเงิน ๕ พระลาก กับ ๒ บาตรพระสงฆ์
น้าพาบอกว่าไปต่อ วัดศรีทวี จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วย
พระลาก ๑ พระเณรนับสิบ กับผู้ปฏิบัติธรรมและคนศรัทธานับร้อย ๆ

ร่วมรับพร กรวดน้ำอุทิศแผ่ส่วนกุศลสู่สรรพสิ่งและญาติมิตร ราว ๆ ๐๗.๓๐ น.

ก็เลยไปหาอะไรกินที่ในเมือง แล้วเวียนดูพระลากรอบเมืองนคร
เพิ่งกลับมานอนต่อ ครอกฟี้ ๆ กำลังนี้ครับ

การใส่บาตรอย่างที่ เมืองอื่นเรียกตักบาตรเทโว ฯ นั้น
คนนครบ้านผมเรียกใส่บาตรหน้าล้อ กรณีที่มีเรือพระ
หากไม่มี ก็เรียกใหม่ ว่าใส่บาตรพระลาก
ประเดี๋ยวพอพระท่านออกแล้ว ก็ขยับกลายเป็นซัดต้มกันละครับ

๑๔ ต.ค. ๖๒ เวลา ๑๐.๐๑ น.
บ้านบวรรัตน์ ท่าวัง เมืองนคร