ที่มา : https://web.facebook.com/jiradejwong…
ผู้เขียน : ภูมิ จิระเดชวงศ์
เผยแพร่ : วันจันทร์ที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕

รายละเอียด

โนรากับคาถาอาคม โดย ภูมิ จิระเดชวงศ์
 
โนรา นาฎยะการแสดงประจำภาคที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวใต้ นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องการร่ายรำที่สง่างาม และมีการขับบทที่มีเอกลักษณ์แล้ว ในอีกมุมหนึ่ง ผู้คนมักจะมองว่า โนราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคาถาอาคม หรือ มีความเชื่อด้านคาถาอาคมอยู่มาก จึงทำให้ภาพที่ผู้คนรู้จักโนรา นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังแฝงไว้ด้วยความเคร่งขรึม กลิ่นอายของความขลังทางความเชื่อ ที่ผู้คนต่างยำเกรงและเลื่องลือถึงเรื่องนี้
 
เมื่อกล่าวถึง โนรา กับ คาถาอาคม เป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้ ด้วยตามขนบของศิลปินในยุคโบราณว่า คนเป็นนายโรง หรือ หัวหน้าคณะ จะต้องมีวิชาอาคมมากพอที่จะต้องคุ้มครองผู้คนในคณะให้รอดพ้นจากภัยอันตรายได้ ซึ่งแทบทุกภูมิภาค ศิลปินที่ทำการแสดง มักจะมีความเกี่ยวข้องกับคาถาอาคม ในส่วนของโนรานั้น จะมีคาถาอาคมที่เกี่ยวข้องอยู่ ๕ แขนง คือ
 
๑. คาถาอาคมเกี่ยวกับการป้องกัน
คาถาด้านการป้องกันของโนรา ถ้าหากท่านเคยสังเกตเวลาก่อนที่โนราจะแสดง ท่านจะเห็นโนราบริกรรมคาถาอาคมต่าง ๆ ตั้งแต่ก่อนขึ้นเวที ไปจนถึงก่อนที่จะกาศครู ซึ่งคาถาอาคมด้านการกันภัยของโนรานั้น ถือเป็นบทบังคับหรือบทพื้นฐานที่ราชครูโนรา หรือ ว่าที่โนราใหญ่จะต้องศึกษาเล่าเรียน ซึ่งการทำคาถาอาคมเพื่อป้องกันนั้น นับตั้งแต่การทำน้ำมนต์สำหรับประพรมขับไล่อวมงคล การกันตัว ( บริกรรมคาถาปิดประตูลมป้องกันเองจากอันตราย )
 
การขีดอาณาเขตโรง การลงยันต์ที่มุมเสื่อคล้าไว้ปูกลางโรง การทำยันต์สำหรับเสาทิศต่าง ๆ ไว้แขวนในโนราโรงครู เป็นต้น
 
๒. คาถาอาคมเกี่ยวกับด้านเสน่ห์เมตตา
เมื่อกล่าวถึงคาถาอาคมของชาวใต้ เสน่หาเมตตาด้านโนรานั้นถือกันว่าเด็ดขาดมาตั้งแต่โบราณ คาถาทางด้านเสน่หาเมตตาสำหรับโนรานั้น มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี มีตั้งแต่การเสกแป้งสำหรับทาหน้า เสกน้ำมันสำหรับเจิมในจุดต่าง ๆ เสกสีผึ้งสำหรับทาปาก หรือบางท่านใช้วิทยาคมประเภทชักราศี หรือ การชุบรูปให้ผ่องใสน่ามอง บางท่านอาจมีวิธีที่พิสดารกว่านั้น เช่น ลงยันต์ที่กลองเพื่อเรียกคน ลงยันต์เลี่ยมไว้ที่ฟันเพื่อทำให้เสียงสามารถสะกดผู้ชมได้ เป็นต้น ซึ่งวิชาอาคมด้านเสน่ห์เมตตาของโนรานั้น กล่าวกันว่าสามารถทำให้ผู้ชมจำนวนมากนั่งชมได้นานตั้งแต่ย่ำค่ำตลอดจนรุ่งสว่าง โดยไม่ละจากโรงแสดงไปยังที่อื่นเลย
 
๓. คาถาอาคมเกี่ยวกับโภคทรัพย์
ถึงแม้ว่ารายได้ส่วนใหญ่จากการแสดงโนรา จะมาจากฝีมือในการร่ายรำและฝีปากในการขับบทกลอนที่ชิงไหวชิงพริบกันด้วยปฎิภาณ แต่ก็มีคาถาบางบทที่เกี่ยวกับโภคทรัพย์เช่นกัน คณะโนรานั้นอยู่ได้ด้วย “ ขันหมาก ” หากคณะใดขันหมากมาก และไม่เคยขาด แสดงว่าโนราคณะนั้นเป็นที่นิยม สำหรับคณะโนราที่ได้รับความนิยมน้อย หรือ ในช่วงที่บ้านเมืองซบเซา นายโรงโนราก็ต้องเล่าเรียนคาถา “ เรียกขันหมาก ” เอาไว้บริกรรมต่อหน้าหิ้งครูหมอ เพื่อเรียกขันหมากจากผู้ชม
 
๔. คาถาอาคมเกี่ยวกับการเซ่นสรวงบวงพลี / คาถาที่เกี่ยวกับวิญญาณ
เนื่องจากโนราเป็นนาฎยะที่มีความเกี่ยวข้องกับโลกวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทรงครูหมอโนรา หรือ การเชื้อเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ นายโรงโนราต้องมีวิชาอาคม และมีความรู้ในด้านการเชื้อเชิญดวงวิญญาณ เชื้อเชิญดวงจิตครูหมอมาประทับทรง รวมถึงมีความรู้เกี่ยวกับการจำแนกวิญญาณประเภทต่าง ๆ และมีวิธีในการป้องกันอาณาเขตการแสดงให้รอดพ้นจากอันตรายในโลกวิญญาณ ซึ่งบทคาถาหลักที่ราชครูโนราจำเป็นต้องเรียนและจำได้ คือบทไหว้พระสัสดีใหญ่ และบทไหว้ครูต้น เพราะทั้งสองบทคือบทต้นที่ใช้ในการเชิญครูหมอโนราประทับทรงและรับเครื่องสังเวย อีกทั้งนายโรงโนรา ต้องมีความรู้ในวิชาการขับผี ขับอวมงคลอีกด้วย จึงจะสามารถเป็นนายโรงที่สมบูรณ์ได้
 
๕. คาถาอาคมเกี่ยวกับการกระทำศัตรู
ในยุคที่โนรายังมีการประชันขันแข่งกันด้วยวิทยาคม การมีวิชาที่ข่มทางฝ่ายตรงข้ามนับว่าสำคัญมากในยุคนั้น การทำคาถาอาคมในโนรารุนแรงมาก ถึงขนาดต้องมีการ “ รำถีบลูกนาว ” ( รำเหยียบลูกมะนาว ) และ “ รำเฆี่ยนพราย ” เพื่อใช้กำจัดคุณอวิชชาที่ฝ่ายตรงข้ามส่งมา นอกเหนือจากการรำทั้งสองชนิดที่มีเพื่อกำจัดฝ่ายตรงข้ามแล้ว ยังมีกลวิธีอื่น ๆ ที่สามารถกระทำฝ่ายตรงข้ามได้ เช่น การมบ ( ทมบ ) ให้โนราว่าเสียงไม่ออก การใช้ภูตผีปีศาจไปรังควาน การใช้วิชาบิดไส้ให้คณะฝ่ายตรงข้ามแสดงไม่ได้ การเสกวัตถุอาถรรพ์ต่าง ๆ เข้าไปรบกวนการแสดงของฝ่ายตรงข้าม เป็นต้น ซึ่งการที่จะทำได้นั้น ผู้ที่กระทำต้องมีวิชาเหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม มิใช่นั้นแล้ว ถ้าฝ่ายตรงข้ามแก้ไขแล้วส่งกลับมาได้ อันตรายจะเกิดกับผู้กระทำแทน
 
แม้ในปัจจุบัน เรื่องวิชาอาคมในโนราจะไม่ได้เน้นในด้านการแข่งขัน หรือการกระทำคุณแข่งกันหนักหน่วงเท่าในสมัยก่อนแล้ว แต่เรื่องคาถาอาคม ถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ราชครูโนราต้องเล่าเรียน เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอันตราย และเพื่อสงเคราะห์ลูกหลานเชื้อสายโนราให้ประสบความสุขสวัสดี