ที่มา : https://web.facebook.com/jiradejwong…
ผู้เขียน : ภูมิ จิระเดชวงศ์
เผยแพร่ : วันพุธที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔

รายละเอียด

ตัดเหมรฺย ตั้งหิ้ง หรือทำสิ่งใดในด้านพิธีกรรมโนรา ต้องแลให้ดี ให้ดูข้อเท็จจริง อย่ามองแต่สิ่งที่เขาบอกเขาว่า หรือเอาภาพที่เขาโพสเฟสให้ดูกัน คนที่ทราบว่าตัวเองหราชิกแล้วก็อย่าไปทำพิธีให้เขา เห็นดูเขา เขาทุกข์ เขาไม่บายใจ ความจริงมันมี เพียงรอวันที่ปรากฎให้คนรู้ เรื่องที่เราทุกคน ควรศีกษา ควรเข้าใจ และช่วย ๆ กันดู

#โนราหราชิก (ปาราชิก) คืออะไร โดย ภูมิ จิระเดชวงศ์

เมื่อเอ่ยถึงราชครูโนรา ย่อมหมายถึงโนราที่มีสิทธิ์สมบูรณ์ในการประกอบพิธีกรรม รวมถึงการสั่งสอน ถ่ายทอดโนราให้แก่ศิษย์ ราชครูโนราในบางพื้นที่นั้น เรียกกันว่า “โนราใหญ่” ผู้ใดที่เป็นราชครูโนราจะเป็นที่นับหน้าถือตาของชุมชนจะได้รับการยอมรับว่าเป็นปราชญ์ผู้หนึ่ง ที่มีวัยวุฒิและคุณวุฒิเพียบพร้อมแก่การเป็นที่พึ่งของสังคมแล้ว

แล้วราชครูโนรามีระเบียบกฎเกณฑ์ในการที่จะเป็นอย่างไรบ้าง ? ในข้อนี้จะกล่าวถึงพิธีกรรมสำคัญที่ราชครูโนราจะต้องผ่าน คือ

๑. พิธีผูกผ้า – ตัดจุก
๒. พิธีอุปสมบท

การที่จะผ่านพิธีทั้งสองได้ ผู้ที่จะเป็นราชครูโนรา จะต้อง “ ไม่ปาราชิก ” หรือ “ ไม่หราชิก ” คำว่าปาราชิกที่โนราใช้นี้ จะมีนัยยะแตกต่างจากพระภิกษุสงฆ์ พระสงฆ์จะมีปาราชิก ๔ ประการ คือ การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การลักขโมย การเสพกาม และ การโอ้อวดคุณวิเศษที่ไม่มีในตน ส่วนปาราชิกในทางโนรา จะหมายถึงข้อสำคัญ คือ การรักษาพรมจรรย์ ผู้ที่จะผ่านพิธีผูกผ้าตัดจุก และ พิธีอุปสมบทเพื่อจะเป็นราชครูโนรา จะต้องรักษาพรมจรรย์ของตนอย่างมั่นคง

ต้องไม่ผ่านการมีคู่ครอง หรือ การเสพกามกับผู้ใดโดยเด็ดขาด นี่เป็นข้อห้ามสำคัญที่รับรู้โดยทั่วกันของชาวโนรา ผู้ที่จะเป็นราชครูโนราจะต้องครองความบริสุทธิ์ จนกว่าจะผ่านพิธีการผูกผ้าตัดจุก และ ผ่านการอุปสมบทอย่างถูกต้อง โนราที่ด่วนใจเร็วไปมีคู่รัก หรือ มีสัมพันธ์ก่อนจะผ่านการผูกผ้าตัดจุกและบวชพระนั้น จะถูกเรียกกันว่า “ โนราหราชิก ” ( โนราปาราชิก ) เป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิ์และหน้าที่ในการทำพิธีกรรมใด ๆ ได้อีกต่อไป ทั้งไม่เป็นที่ยอมรับของครูหมอตายาย ซึ่งถือว่ากรณีหลังนี้ร้ายแรงพอสมควร

ผู้เขียนได้สอบถามผู้ที่มีความรู้ในขนบธรรมเนียมโนราเพิ่มเติม พบว่ากฎเกณฑ์ของ “โนราหราชิก” มิได้สิ้นสุดหลังจากที่ได้สึกจากการเป็นพระโดยสมบูรณ์แล้ว แต่กฎเกณฑ์สำคัญที่ราชครูโนราจะต้องครองตนมิให้ “ ปาราชิก ” นั้น ยังครอบคลุมไปถึงชีวิตหลังจากที่ผ่านการผูกผ้าตัดจุก บวชพระมาแล้วด้วย ผู้คนส่วนมากจะถือกันว่า เรื่องโนราปาราชิก หรือ โนราหราชิกจะต้องป้องกันก่อนที่จะผูกผ้าตัดจุกและบวชพระเท่านั้น แต่ในธรรมเนียมของราชครูโนรายุคโบราณแล้ว การเป็นราชครูโนราต้องรักษาวัตรที่สำคัญมิให้ปาราชิก ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว คือ เบญจศีลทั้ง ๕ ประการในพุทธศาสนา แต่ข้อที่สำคัญที่สุด เรียกกันว่า หากพลาดในข้อห้ามดังกล่าวแล้วถึงกับ “ขาด ” หรือ “ ปาราชิก ” ซึ่งมีด้วยกัน ๔ ข้อ ดังต่อไปนี้

๑. ห้ามนำลูกสาวที่พ่อไม่ยกให้ หรือ สตรีที่มีสามีแล้ว นำมาเป็นภรรยาของตนเอง ( ห้ามพรากลูกพรากเมียผู้อื่นมาเป็นของตน )
๒. ห้ามได้เสียกับลูกศิษย์ หรือ ผู้หญิงในคณะของตน ( ยกเว้นภรรยาที่อยู่กินอย่างถูกต้อง )
๓. ห้ามได้เสียกับบุรุษเพศ หรือ บุคคลลักเพศ ( บุคคลสองเพศในคนเดียวกัน )
๔. ห้ามได้เสียกับดิรัจฉาน

ต้องขออธิบายว่า ในปัจจุบัน วงการโนราได้มีบุคคลเพศที่สามมารำโนรากันมากขึ้น ข้อห้ามดังกล่าว จารีตโบราณสงวนไว้เฉพาะผู้ที่เป็นราชครูโนรา หรือผู้ที่เป็นโนราใหญ่เท่านั้น #ส่วนผู้ที่รำโนราเพื่อความบันเทิงไม่ได้ต้องการที่จะเข้ามาเป็นราชครูโนรา ท่านจะมีเพศสภาวะอย่างไรก็ได้ กฎเกณฑ์เหล่านี้ ราชครูโนรา ได้นำเอาพระวินัยบางส่วนมาเป็นกฎเกณฑ์บังคับขึ้น ซึ่งราชครูโนราท่านใดถ้าได้ละเมิดข้อใดข้อหนึ่งใน ๔ ข้อนี้ ถือว่า ความเป็นราชครูโนราได้สิ้นสุดลง

บางท่านอาจแย้งขึ้นมาว่า ถ้าเกิดพลาดขึ้นมาแล้ว ถ้าไปทำพิธีเกิดใหม่หรือทำพิธีสะเดาะตัว หรือ พิธีบริสุทธิ์ตัว ด้วยการลงไปทำพิธีกลางลำคลองน้ำไหล แต่ตามคติโบราณ การทำพิธีเกิดใหม่จะได้ผลเฉพาะผู้ที่มีเคราะห์หนัก หรือ ผู้ที่ถูกอาเพศอาถรรพ์จนหมดทางแก้แล้ว พิธีจะไม่มีผลกับผู้ที่ฝ่าฝืนข้อปาราชิก

หากท่านสงสัยว่า ถ้าโนราปาราชิกไปทำพิธีกรรมใด ๆ จะมีผลเป็นเช่นไร ผู้รู้ทางด้านโนราหลาย ๆ ท่าน บอกกับผู้เขียนสั้น ๆ ว่า “ ผลเป็นโมฆะ ” หากตัด เหมรฺย เหมรฺยไม่ขาด หรือทำพิธีกรรมอื่น ๆ ย่อมไม่เห็นผลเลย

เรื่องโนราหราชิก หรือ โนราปาราชิก ที่ผู้เขียนหยิบมานำเสนอนี้ เป็นจารีตข้อห้ามที่สำคัญในการเป็นราชครูโนรา ที่ราชครูโนราในอดีตได้ตั้งกฎเกณฑ์สืบทอดกันมา และเป็นกฎเกณฑ์เป็นที่ยอมรับทั้งฝ่ายของครูหมอโนราและในฝ่ายของมนุษย์ เมื่อผู้ที่ผ่านการเป็นราชครูโนราได้ละเมิดข้อห้ามขึ้น ก็เปรียบเสมือนกับพระสงฆ์ที่ต้องอาบัติปาราชิก เป็นตาลยอดด้วน ที่มิอาจกลับมาบวชใหม่ได้อีก ผู้คนในอดีตที่มีความรู้ด้านโนราหรือผู้ที่รับโนราไปประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ จะให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อปาราชิกอย่างมาก หากโนราคนใดปาราชิกก่อนเป็นราชครูหรือเป็นราชครูแล้วเกิดปาราชิก จะไม่มีการรับไปประกอบพิธีกรรมเด็ดขาด เพราะด้วยเหตุเป็นปาราชิกแล้วนั้น ไม่ว่าจะกระทำพิธีใดก็ย่อมไม่บังเกิดความมงคล ย่อมเป็นมลทินโทษแก่มงคลพิธีนั้น และกฎเกณฑ์ที่ผู้เขียนยกมา ก็ใช่ว่าผู้เขียนจะกำหนดขึ้นเอง แต่เป็นกฎที่มีสืบกันมานานแล้ว และเป็นกฎเหล็กที่ราชครูโนราทุกคนต้องถือครองจนกว่าจะสิ้นอายุขัย