ที่มา : https://web.facebook.com/jiradejwong…
ผู้เขียน : ภูมิ จิระเดชวงศ์
เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔

รายละเอียด

๑.#เจ้าพญาสายฟ้าฟาด
เจ้าพญาสายฟ้าฟาด เป็นเจ้าเมืองผู้ครองเวียงบางแก้ว ในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓ – ๑๔ โดยพญาสายฟ้าฟาด มีชื่อปรากฎอยู่ในตำนานโนราที่เล่าสืบต่อกันมา ว่าพญาสายฟ้าฟาด เป็นผู้พระราชทานเครื่องทรง และแต่งตั้งพระเทพสิงหล พระนัดดาขึ้นเป็นขุนศรีศรัทธาครูต้นของการร่ายรำโนรา ด้วยเหตุเพราะ พญาสายฟ้าฟาดเป็นเจ้าเมืองของเวียงบางแก้ว เป็นผู้ที่มีอาญาสิทธิ์เด็ดขาด จึงเป็นที่เคารพนับถือยำเกรงของลูกหลานโนราอย่างมาก

๒.#แม่ศรีมาลา
แม่ศรีมาลา หรือ พระนางศรีมาลา เป็นพระมเหสีของพญาสายฟ้าฟาด มีชีวิตอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓ – ๑๔ พระนางศรีมาลานั้น มีปรากฎอยู่ในตำนานโนราว่าเป็นพระมารดาของพระนางนวลทองสำลี โดยพระนางศรีมาลานั้น ทรงเป็นเหตุที่ทำให้พระเทพสิงหลนิวัติสู่เวียงบางแก้ว ในครั้งนั้นพระนางศรีมาลาได้ล้มป่วยลงด้วยโรคที่หมอต่างรักษาไม่ได้ พญาสายฟ้าฟาดจึงได้ระดมคนที่รักษาได้เข้ามาในวัง จนกระทั่งพระเทพสิงหลได้รำเบื้องหน้าพระพักตร์ จึงทำให้อาการประชวรของแม่ศรีมาลากลับมาหายดี

๓.#แม่นวลทองสำลี
พระนางนวลทองสำลี เป็นพระราชธิดาของพญาสายฟ้าฟาดและพระนางศรีมาลา ถ้าหากพิจารณากันตามตำนานแล้ว ผู้ที่ให้กำเนิดการร่ายรำโนราคือแม่นวลทองสำลีนี่เอง ตามที่มี ระบุกันไว้ในตำนานโนรา แม่นวลทองสำลีพระธิดาของพญาสายฟ้าฟาดทรงชอบการร่ายรำและบันเทิงอย่างมาก จนกระทั่งวันหนึ่งพระนางได้เกิดทรงพระครรภ์ขึ้นมา ซึ่งเป็นการผิดกฎมณเฑียรบาล พญาสายฟ้าฟาดจึงทรงเนรเทศ พระนางนวลทองสำลี ไปยังเกาะสีชัง หรือ เกาะสีสังข์ ( ปัจจุบันคือ พื้นที่ เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ) พระนางนวลทองสำลีได้อยู่ที่เกาะใหญ่ จนได้ทรงประสูติพระเทพสิงหลและสอนพระเทพสิงหลในการร่ายรำ ต่อมาเมื่อ พระเทพสิงหลจำเริญวัยขึ้น ได้ออกเดินทางตามหาเมืองพระอัยกา จนได้ทราบข่าวว่า พระมเหสีเวียงบางแก้วทรงประชวร พระเทพสิงหลได้ทำการแสดงการร่ายรำ รักษาพระนางศรีมาลาจนแล้วเสร็จ พญาสายฟ้าฟาดและพระนางศรีมาลา จึงทราบว่าเป็นพระเทพสิงหล เป็นพระนัดดาของพระองค์ จึงรับพระเทพสิงหลกลับสู่เมือง ในบางกระแสเชื่อถือกันว่า เมื่อพระเทพสิงหลนิวัติบ้านเมืองแล้ว พญาสายฟ้าฟาดได้มีพระราชบัญชาให้ไปรับพระนางนวลทองสำลีกลับมาด้วย แต่บางกระแสก็ไม่ได้ระบุถึงเรื่องราวในจุดนี้

๔.#พระเทพสิงหล/หร ( ขุนศรีศรัทธาองค์ต้น )
พระเทพสิงหล หรือ ขุนศรีศรัทธาองค์ต้น พระองค์เป็นพระโอรสของพระนางนทองสำลี ตามตำนานกล่าวว่า พระนางนวลทองสำลีได้ทรงพระครรภ์ขึ้นมาเอง และด้วยเหตุที่กระทำผิดกฎมณเฑียรบาลในข้อนี้ จึงทำให้พระนางนวลทองสำลีถูกเนรเทศ และเมื่อครบถ้วนถึงกาลประสูติ พระนางนวลทองสำลีได้ทรงประสูติพระเทพสิงหล จนกระทั่งพระเทพสิงหลเจริญวัยขึ้น พระนางนวลทองสำลีก็ได้สอนการร่ายรำให้ เมื่อพระเทพสิงหลเติบโตถึงวัยหนุ่ม จึงได้ทูลลาพระนางนวลทองสำลีไปยังบ้านเมืองของพระอัยกาโดยมี พรานทิพย์เป็นผู้ช่วยเหลือ พระเทพสิงหลได้ใช้การร่ายรำที่พระมารดาสอน ใช้ร่ายรำแลกข้าวปลาอาหาร จนมีชาวบ้านช่วยเหลือ และบอกหนทางไปยังเวียงบางแก้ว ประจวบเหมาะกับมีสัปปบุรุษจากในวังนำเอาเรื่องที่พระนางศรีมาลาทรงประชวรมาบอก ว่าถ้าใครรักษาอาการประชวรได้จะมีรางวัลให้ พระเทพสิงหลจึงตัดสินพระทัยเดินทางไปยังเวียงบางแก้ว หลังจากที่ร่ายรำจนเสร็จสิ้น พระนางศรีมาลาที่ได้เห็นท่ารำก็พลันหายจากอาการประชวรและพญาสายฟ้าฟาด ก็ได้ทราบว่าพระเทพสิงหลคือพระนัดดาของพระองค์ จึงรับเข้าสู่พระราชวังทั้งพระราชทานเครื่องทรงให้ พร้อมแต่งตั้งให้เป็นขุนศรีศรัทธาเป็นหัวหน้านักรำหลวงมีหน้าที่ในการถ่ายทอดการรำโนราให้อยู่คู่กับเวียงบางแก้ว และการร่ายรำโนราที่พระเทพสิงหลได้เป็นผู้รำนั้น ก็ได้รับการสืบทอดลงมาจนถึงปัจจุบัน